มารู้จัก โรคประสาทหลอน ที่เราเห็นบ่อยๆ ในหนังสงครามกันเถอะ
Hallucination หรืออาการประสาทหลอน ที่เรามักพบได้บ่อยในหนังสงคราม ซึ่งตัวละครมักจะมีอาการสัมผัสหรือรับรู้บางสิ่งได้แม้ไม่มีอะไรมากระตุ้น เช่น การเห็นภาพหลอน หูแว่วไปเอง ได้กลิ่น รับรู้ หรือสัมผัสได้ถึงสิ่งที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง ซึ่งมักเกิดกับผู้ที่เป็นโรคจิตเภท ผู้ที่ดื่มสุราเรื้อรัง หรือาจเป็นอาการข้างเคียงของการใช้ยาบางชนิดได้ โดยหากพบว่า ตนเองหรือผู้ใกล้ชิดมีลักษณะที่คล้ายกับอาการประสาทหลอน ควรรีบมาพบแพทย์โดยด่วน
อาการหลอน
สามารถแบ่งเป็นประเภทตามประสาทสัมผัสได้ดังนี้
- การเห็นภาพหลอน (Visual Hallucination)
ผู้ป่วยจะมองเห็นภาพที่ไม่ได้เกิดขึ้นจริง - การหูแว่ว (Auditory Hallucination)
เป็นอาการที่พบมากที่สุด โดยผู้ป่วยจะได้ยินเสียงที่ไม่มีอยู่จริง - ประสาทหลอนทางการได้กลิ่น (Olfactory Hallucination)
ผู้ป่วยจะได้กลิ่นในขณะที่คนอื่นไม่ได้กลิ่นนั้น - ประสาทหลอนทางการรับรส (Gustatory Hallucination)
ผู้ป่วยจะรับรสที่ไม่พึงประสงค์ได้ เช่น รสของโลหะ - ประสาทหลอนทางการสัมผัส (Tactile Hallucination)
ผู้ป่วยอาจรู้สึกได้รับการสัมผัสหรือมีบางสิ่งขยับอยู่ในร่างกายซึ่งสิ่งนั้นไม่มีจริง
สาเหตุของอาการประสาทหลอน
- โรคและการเจ็บป่วยทางจิต เช่น โรคจิตเภท (Schizophrenia) อาการเพ้อ (Delirium) ไบโพลาร์ เป็นต้น
- โรคทางระบบประสาทและสมอง เช่น พาร์กินสัน สมองเสื่อม (dementia) ไมเกรน ลมชัก เป็นต้น
- ผู้ที่มีความบกพร่องด้านการมองเห็น
- อาการข้างเคียงของยาบางชนิด มักพบได้มากเมื่อผู้ใช้ยาเป็นผู้สูงอายุ
- การดื่มสุราเป็นระยะเวลานาน
- อาการข้างเคียงหลังการผ่าตัดศัลยกรรม หรือการดมยาสลบ
- ความเครียดและความกังวล การพักผ่อนไม่เพียงพอ
การรักษาอาการประสาทหลอน
การรักษาขึ้นกับสาเหตุของอาการประสาทหลอน โดยแพทย์จะเป็นผู้วินิจฉัยจากอาการ โดยมีวิธีการรักษาหลัก ดังนี้
- การรักษาด้วยยา
การรักษาด้วยวิธีนี้ มักใช้กับผู้ที่เกิดอาการประสาทหลอนจากการดื่มสุราติดต่อกันเป็นเวลานาน ผู้ป่วยโรคจิตเภท หรือผู้ป่วยโรคเกี่ยวกับระบบประสาทและสมอง - สำหรับผู้ป่วยมีปัญหาเกี่ยวกับการมองเห็นจะต้องได้รับการดูและรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ โดยอาจจำเป็นต้องผ่าตัดในกรณีที่จำเป็น
อย่างไรก็ตาม ผู้ป่วยที่มีอาการประสาทหลอนหากมีความเข้าใจในอาการของตนเอง รวมถึงได้รับการรักษาอย่างถูกต้องเหมาะสมจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ จะทำให้สามารถใช้ชีวิตอยู่อย่างปกติได้ ทั้งนี้ บุคคลใกล้เคียงควรดูแลอย่างใส่ใจใกล้ชิด ไม่ควรปล่อยผู้ป่วยไว้ตามลำพัง เนื่องจากอาจกระตุ้นให้ผู้ป่วยมีอาการรุนแรงขึ้นจนนำไปสู่พฤติกรรมที่มีความอันตราย เช่น การทำร้ายตนเอง และผู้อื่นได้
ที่มารูปภาพ
- Photo by Eugene Golovesov from Pexels: https://www.pexels.com/photo/pink-flower-tree-15024779/
- https://storge.tumblr.com/post/734360151007559680
- Photo by Keenan Constance: https://www.pexels.com/photo/woman-sitting-on-wooden-planks-2865901/
ที่มาบทความ
- https://www.healthline.com/health/hallucinations
- http://110.164.147.155/kmhealth_new/?page_id=1428
- https://www.nhs.uk/mental-health/feelings-symptoms-behaviours/feelings-and-symptoms/hallucinations-hearing-voices/
- https://www.webmd.com/schizophrenia/what-are-hallucinations
- https://www.pobpad.com/%E0%B8%AB%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%99
- https://www.rama.mahidol.ac.th/ramamental/generalknowledge/general/09042014-0855
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น